ถ้าคุณรู้สึกว่ากลัวอนาคตไม่มั่นคง แสดงว่า..เริ่มมีสัญญาณบอกเป็นลางว่า ความสามารถของคุณเริ่มหมดอายุแล้ว ทางออกที่เราอยากแนะนำให้คุณรีบ ททท. (ทำทันที) คือ รีบค้นหาพรสวรรค์หรือสิ่งที่เราชอบและหลงใหลให้เจอ...เร็วที่สุด แล้วพัฒนาศักยภาพของตัวเองจากจุดนั้นอย่างต่อเนื่อง ทำไมเราต้องค้นหาตัวเอง ส่องกระจกก็รู้ว่าตัวเราคือใคร ชื่ออะไร แล้วมันสำคัญอย่างไรที่จะต้องค้นหาตัวเอง กฎแห่งความสำเร็จไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อนเลย แค่หาสิ่งที่คุณชอบ หลงใหลที่จะทำมันอย่างมีความสุขได้ทุกวัน หัวใจของความสำเร็จ คือ การทำเรื่องเดิมซ้ำ หาข้อแก้ไขแล้วพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าในเวลาเท่ากัน...คุณฝึกฝนได้มากกว่าเพื่อน แน่นอน คุณจะมีความเชี่ยวชาญมากกว่า เป็นมืออาชีพมากกว่า สุดท้าย คุณจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ยิ่ง...เรื่องที่คุณเชี่ยวชาญ มีผลกระทบต่อชีวิตผู้คนในวงกว้าง ช่วยแก้ปัญหาให้คนได้มากมาย คนเหล่านั้นเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพื่อเอาความเชี่ยวช่ญของคุณ ไปแก้ปัญหาให้พวกเขา เงินจำนวนมาก มาจากคนจำนวนมาก ยุคนี้เป็นยุคทองของคนที่มีความชำนาญเฉพาะทาง เพราะสื่อออนไลน์..จับคู่คนที่ชอบในสิ่งเดียวกันได้มากขึ้น การตลาดแบบกลุ่มใหญ่ นับวันจะไม่มีที่ยืน ขอเพียงให้คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง แล้วพัฒนาและต่อยอดไปสู่ตลาดที่มีความต้องการเฉพาะทาง ค่าแรงค่าจ้างของผู้เชี่ยวชาญ ย่อมสูงกว่าคนทำงานทั่วไปอยู่แล้ว ที่เราต้องทุกข์ทรมาน รู้สึกว่าไม่ประสบความสำเร็จสักที เพราะว่า...สิ่งที่เราทำและเป็นอยู่ในตอนนี้ ยังไม่ใช่สิ่งที่แสดงศักยภาพแท้จริงของเราออกมา งานประจำ เป็นการทำงานแลกกับเงินเดือน ความเชี่ยวชาญของเรามีผลกระทบต่อเจ้านายไม่กี่คนเท่านั้น ยิ่งเวลาผ่านไป หากไม่พัฒนาศักยภาพให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นไปได้ว่า หากมีคนอื่นทำงานได้ตรงกับความต้องการของเจ้านายมากกว่า คุณก็อาจตกงานได้ หลายคนคิดว่าการประจบเจ้านายเป็นทางรอดที่ใช่ อันที่จริง เจ้านายที่ไม่ใช่เจ้าของบริษัท ถ้าไม่พัฒนาตัวเองให้เท่าทันโลก ก็มีสิทธิ์เด้งได้เหมือนกัน ดังนั้น ไม่มีสิ่งใดสำคัญเท่ากับการกลับมารับผิดชอบชีวิตตนเอง อย่าฝากชีวิตไว้กับใครจะดีกว่า คราวนี้ เราไปดูสองคำถามสำคํญ ที่มีผลต่อชีวิตของคนวัย 40 ที่ทำงานประจำ และรู้สึกว่าชีวิตของฉันไม่มั่นคงเลย สาเหตุอะไรที่ทำให้พวกเขา่มีชีวิตในแบบนั้น ทำไม คนทำงานประจำไม่ค่อยพัฒนาศักยภาพตัวเอง? เป็นเพราะว่า พวกเขาไม่ได้ทำงานที่รักจริงๆ พอไม่รักงานที่ทำ จะไปค้นคว้าหาความรู้เพื่อพัฒนาตัวเอง มันเป็นเรื่องฝืนใจมาก ไม่ค่อยอยากทำ ทำได้ไม่นานก็เลิก ทำแล้วมันไม่มีความสุขไง ผมเคยทำงานเกี่ยวกับธุรกิจประกันชีวิต พบว่า ในบรรดาพนักงานด้วยกัน มีเพียงไม่กี่คนที่พัฒนาตัวเองให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าประกันชีวิต น้อยคนที่จะสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรกับองค์กรประกันชีวิตระดับนานาชาติ ทั้งที่บริษัทก็สนับสนุน สอบผ่านยังได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นอีกด้วย ลองคิดดูว่า เมื่อถึงคราวที่บริษัทจะต้องคัดเลือกพนักงานขึ้นตำแหน่ง ระหว่างผู้เชี่ยวชาญกับพนักงานระดับปริญญาธรรมดา มาตรฐานทั่วไป...เจ้านายจะเลือกใคร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคัดพนักงานออกจากตำแหน่ง เรารู้ดี...ว่าผู้เชี่ยวชาญกับพนักงานธรรมดา ใครจะอยู่หรือใครจะรอด อายุ 40 ปีแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี ควรทำอย่างไร? อย่างน้อยยังโชคดีที่มีงาน มีเงินใช้ ก็เอาเวลานี้แหละ รีบพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ รีบค้นหาพรสวรรค์ให้เจอ มีเจ้าของธุรกิจขนาดหลายร้อยล้านบาท เธอบอกว่า ถ้าให้เลือกหยุดอายุไว้ตรงที่ใดสักช่วงหนึ่ง เธอจะเลือกหยุดไว้ที่อายุ 40 ปี เพราะดูไม่แก่เกินไป(ถ้าดูแลตัวเองดี) แถมช่วงอายุนี้กำลังพอดีที่จะประสบความสำเร็จ ผ่านประสบการณ์ชีวิตพอสมควร ความรู้ที่เรียนมาได้ใช้งานจริง มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ และมีความเชื่อถือจากวัยที่เหมาะสม คุณเองก็คิดเช่นนี้ได้เหมือนกัน แทนที่จะมานั่งกลัว...ทำไมไม่รีบลงมือทำตอนที่ยังมีโอกาสเพิ่มทางเลือกให้กับชีวิต อาจจะหางานที่รักทำเป็นงานอดิเรก แล้วพัฒนาสิ่งนั้นให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ เอาเวลาว่างไปฝึกฝนการค้าออนไลน์ เป้าหมายเพื่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านค้าออนไลน์ไปเลย บางคนมุ่งมั่นเกี่ยวกับสื่ออนไลน์ ทำคลิปสอนการสร้างรายได้จากยูทูป มีคนเข้าไปดูเป็นแสนคน สุดท้าย เข้าไปเปิดคอร์สสอนการสร้างรายได้จากยูทูป มีชีวิตที่หลุดจากกรอบเดิมโดยสิ้นเชิง จะเห็นว่า คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้ทำงานอดิเรกเพื่อหารายได้เพิ่ม แต่เขาเอางานอดิเรกนั่นแหละ ช่วยพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น และกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น หลายคนที่ไปไม่รอดในยุคนี้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาขาดแคลนเงินนะครับ มีเงินมาก..แต่ไม่รู้ว่าจะลงทุนอะไรดี ขาดประสบการณ์บริหารเงิน เดี๋ยวเดียวก็หมดตัวได้ ผิดกับคนที่มีไอเดียเจ๋งๆ สามารถนำไอเดียไปขายให้คนมีเงิน นำเงินมาร่วมลงทุนกับเขา แล้วแบ่งกำไรกัน นี่ต่างหากเป็นทางรอดของคนยุคนี้ การจะมีไอเดียเจ๋งๆ เราต้องผ่านประสบการณ์ลองผิดลองถูกในเรื่องนั้นมาพอสมควร ที่สำคัญ...ต้องรักที่จะทำมากพอ ทำซ้ำๆไปถึงจุดหนึ่ง ประตูไอเดียที่จะทำให้เราก้าวกระโดดไปสู่ความสำเร็จจึงจะเปิดออก การมีครูหรือโค้ชช่วยแนะนำ มีกลยุทธ์และวิธีการฝึกฝนไปสู่เส้นทางของตัวเอง เป็นทางลัดตัดตรง...เข้าสู่การค้นหาตัวตนภายในให้เร็วที่สุด ประหยัดเวลาและความเสี่ยงในอนาคตได้ดี ถ้าตอนนี้คุณอายุ 40 ปี ทำงานประจำ รู้สึกว่ายังไปไม่ถึงไหน แนะนำว่า...ควรรีบลงทุนกับตัวเอง หาทางเลือกให้ชีวิตเผื่อเอาไว้ล่วงหน้า อย่ารอให้เจ้านายเรียกไปบอกว่าเดือนหน้าจะเลิกจ้าง แล้วค่อยมาคิดว่า..จะทำอะไรดี การวางแผนชีวิตล่วงหน้าสัก 5-10 ปี เป็นเรื่องจำเป็นของคนยุคนี้ รับค้นหาว่าเรามีพรสวรรค์เรื่องใด แล้วหาทางทำให้ชำนาญเร็วที่สุด ชำนาญแล้วก็พัฒนาไปสู่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญอีกทีหนึ่ง ถ้าไม่รู้จะทำอย่างไร ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 13.00 – 15.00 น. และ...วันเสาร์ เวลา 10.30 – 12.30 น. The Master Coach Academy มีคอร์ส..ฟรี ให้ฝึกฝนการตั้งระบบจิตแบบ SLP เพื่อค้นหาตัวเอง ค้นหาทางเลือกที่ใช่ เพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างเต็มประสิทธิภาพ ให้คุณกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในเรื่องที่คุณมีพรสวรรค์...อย่างแท้จริง. The Master Coach Academy อ.สถิตธรรม เพ็ญสุข สอบถามรายละเอียด ได้ที่ 02-618-2221, 092-361-5346 www.TheMasterCoachAcademy สมัคร youtube เรียนออนไลน์กับอ.สถิตธรรม The Master Coach Academy โค้ชโจ้ Twitter @PakpongTatanan คอร์สออนไลน์ กลุ่ม facebook - E-Learning Zen สมัคร youtube รับข่าวสารและบทเรียน Spiritual Jumping Chanel |
Archives
October 2018
Authorโค้ชโจ้ ภัคพงศ์ ตาตะนันทน์ ฝึกฝนการโค้ชผ่านระบบ SLP กับอาจารย์สถิตธรรม เพ็ญสุข ทำงานเป็นผู้ช่วยอาจารย์และร่วมก่อตั้งสถาบันโค้ชพลังจิต The Master Coach Academy Categories |