การฝึกฝนจิตกับปัญหาด้านการเงิน ได้รับคำถามมาเยอะเหลือเกินเรื่องการโค้ชกับปัญหาด้านการเงินว่าจะช่วยได้หรือไม่ บางท่านบอกว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกเลย แล้วถ้าเป็นอย่างนี้การจูนจิตจะช่วยได้อย่างไรบ้าง เรื่องนี้มีคำตอบครับ เรามาเริ่มกันในส่วนท้าทายที่สุดก่อนนะครับ คือ
1. สำรวจปัญหาอย่างจริงจัง...ว่ารูรั่วการเงินอยู่ตรงไหน วิธีง่ายๆคือการทำบัญชีออกมาให้เห็นรายละเอียดเลยว่า รายจ่ายของเราแต่ละเดือนเท่าไร และรายรับเท่าไร ขั้นตอนนี้ยากที่สุดครับ เพราะคนส่วนมากไม่กล้าทำ ปกติแล้วจิตที่ไม่เคยฝึกจะปฏิเสธความจริง มันเจ็บปวดครับที่ต้องนึกถึงความผิดพลาดของตัวเอง แต่..มาถึงตอนนี้แล้วยังไงก็ต้องทำแล้วล่ะครับ ไม่อย่างนั้นเราจะไม่รู้ความจริงแล้วหลอกตัวเองไปเรื่อยๆว่าเดี๋ยวมันจะดีขึ้น การเงินจะไม่ดีขึ้นจนกว่า...คุณจะรู้ความจริงว่าปัญหาแท้จริงของเราอยู่ตรงไหน 2. เมื่อได้ตัวเลขของหนี้สินจนรู้ว่าหนี้ก้อนโตมันมาจากไหน เกิดจากเรื่องอะไร รีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นครับ เช่น บัตรเครดิต มีโค้ชและผู้สอนเกี่ยวกับการบริหารหนี้ที่พร้อมช่วยเราครับ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องหนี้เฉพาะด้าน จะทำให้เราได้ข้อเท็จจริงว่าควรบริหารหนี้อย่างไรแบบถูกหลัก เพราะการลังเล คิดเอง ทอดเวลาไปเรื่อยๆด้วยความกลัว...มีแต่จะทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อนครับ 3. การเก็บเงินเพื่อนำส่วนที่เหลือมาใช้หนี้สำเร็จยากครับ เพราะคนที่ไม่เคยฝึกจิตแบบจริงจัง ความรู้สึกเก็บเงินจะเชื่อมโยงกับความรู้สึกขาดแคลนไม่รู้ตัว ส่วนคนที่ฝึกจิตมาดีแล้ว เขาจะพัฒนาจิตในเรื่องของเงินด้วยการเพิ่มศักยภาพของการทำงานหาเงินให้มากขึ้น แบ่งส่วนที่ต้องใช้จ่ายสำคัญที่สุดและจ่ายก่อนเสมอ แล้วแบ่งส่วนที่ต้องเก็บลงทุนไว้เป็นประจำ แน่นอนว่า ส่วนที่จะต้องใช้หนี้เป็นส่วนที่สำคัญรองลงมาจากค่าบ้าน ไฟฟ้า น้ำประปา เพราะถ้าไม่มีบ้านเราคงไม่มีความสุขที่จะออกไปทำงานครับ การจัดความสำคัญทางการเงินจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำลำดับแรกๆครับ 4. เมื่อพูดว่าฉันต้องหาเงินเพิ่ม อย่าคิดว่าจะต้องทำงานหนักหรือทำงานล่วงเวลาเสมอนะครับ ให้คิดถึงงานที่เราสามารถใช้เวลาเพิ่มเล็กน้อย อาจจะวันละ 1-2 ชั่วโมงเพื่อทำมันอย่างต่อเนื่อง (ความต่อเนื่องนี่แหละสำคัญ) เป้าหมายในระยะแรกอย่าเพิ่งโฟกัสที่เรื่องได้เงินเยอะๆมาใชหนี้นะครับ ให้โฟกัสเรื่องค้นหาว่า...ศักยภาพอะไรบ้างที่เราต้องพัฒนาให้ดีขึ้น เพื่อสร้างความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นจนกลายเป็นคนเก่งจริงในเรื่องที่ทำ ตอนที่คุณเก่งจริงๆในเรื่องที่ทำ รายได้จะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จะมีเงินทองมากมายเข้ามาแบบรู้ตัวว่าจะทำซ้ำและทำเพิ่มได้อย่างไรครับ อย่ารีบเชื่อคนที่มาชวนว่าธุรกิจ A B C ทำแล้วรวยเร็ว เพราะคุณจะยังไม่รวยเร็ว...จนกว่าจะเก่งเรื่องนั้นจริง 5. ฝึกจิตให้ออมเงินด้วยความสุข เก็บเงินเหรียญหรือธนบัตรใบละ 20, 50 บาท ใส่ในที่เก็บเงินแบบไม่ตั้งใจ พอเดินเข้าบ้านก็หยอดใส่กระปุก ทำไปเรื่อยๆไม่ต้องจดจ่อว่าได้เงินเท่าไรแล้ว เป้าหมายเพื่อให้จิตคุ้นเคยกับการออมเงินอย่างมีความสุข สำคัญที่สุดคือ ในแต่ละเดือนหากคุณมีเงินเหลือเก็บไม่ว่าจะมากหรือน้อย มันเป็นการสร้างความสุขว่าเรามี เรามีเหลือ และระบบจิตด้านบวก ความร่ำรวยจะพัฒนาขึ้นจากตรงนี้ครับ สรุป คุณอาจจะมีข้อโต้งแย้งว่า หนี้หลักล้าน...มัวนั่งปรับระบบจิตอย่างนี้จะทันเหรอ มีวิธีแบบฝึกจิตดึงดูดให้ถูกหวยเลยดีกว่ามั้ย การที่คนๆหนึ่งจะมีโชคลาภนั้น เกิดจากจิตที่ใส สว่าง มีความสุขและไม่มีความสงสัยว่าตัวเองยากจนหรือขาดแคลน ความโชคดีจึงจะเดินทางมาพบและอาศัยอยู่กับเรา การฝึกจิตในเรื่องการเงินนั้น หลักๆขอให้เริ่มต้นที่...ฝึกเพื่อให้เราหันหน้าเข้าหาความจริงครับ ไม่หนีปัญหา ไม่ท้อแท้หมดหวังจนไม่อยากมีชีวิต เพราะอะไรจึงกล่าวเช่นนี้เหรอครับ เนื่องจากมหาเศรษฐีส่วนมากเกิน 90% เติบโตขึ้นมาจากการแก้ปัญหานี้สินของตัวเองได้ทั้งนั้นแหละ จุดต่ำสุดมันกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่...ถ้าเราจดจ่อกับเป้าหมายใหม่ นึกถึงชีวิตในวันที่ร่ำรวยเงินทอง แล้วคุณจะรู้ว่า...วันที่ร่ำรวย จะหันกลับมาขอบคุณบทเรียนนี้ที่ทำให้ร่ำรวยอย่างมั่นคงและยั่งยืนครับ โค้ชโจ้. ======== โค้ชจูนจิตตั้งระบบ Mindset ชีวิต กับ อ.สถิตธรรม เพ็ญสุข ที่ปรึกษาระบบจิตและการใช้ชีวิต ช่วยให้ระบบการเงินของคุณดีขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อคุณสัมผัสถึงชีวิตที่ดีกว่าเดิม อันเริ่มจากการใช้เงินอย่างคุ้มค่าทุกบาท เพื่อให้เราได้รับสิ่งดีที่สุดเข้ามาในชีวิตเสมอ #โค้ชจูนจิตตั้งMindsetเรื่องการเงิน - โทร. 092-361-5346 www.themastercoachacademy.org |
Archives
October 2018
Authorโค้ชโจ้ ภัคพงศ์ ตาตะนันทน์ ฝึกฝนการโค้ชผ่านระบบ SLP กับอาจารย์สถิตธรรม เพ็ญสุข ทำงานเป็นผู้ช่วยอาจารย์และร่วมก่อตั้งสถาบันโค้ชพลังจิต The Master Coach Academy Categories |