เวลาเรามองคนที่ประสบความสำเร็จ เรามักจะมุ่งความสนใจไปที่..เขาทำอะไร ขายอะไร ใช้เครื่องมือโฆษณาสินค้าอย่างไร จึงประสบความสำเร็จ..แล้วก็ขายของแบบเดียวกัน ใช้สื่อเหมือนกัน อย่างปีนี้ สื่อต่างๆบอกว่า ธุรกิจความงามและสุขภาพเป็นหนึ่งใน 5 ธุรกิจที่มาแรง รวย! ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่เข้ามาในธุรกิจความงามและอาหาร...จะร่ำรวยกันหมด ในทางกลับกัน ตลาดนี้จะกลายเป็นตลาดแบบทะเลเดือดเลือดพล่าน ผู้เล่นหน้าใหม่เยอะมากๆเพราะคนสูงวัยในบ้านเราเพิ่มขึ้น แต่ก็นั่นแหละ...คนสูงวัยที่ยังมีกำลังซื้อและรักชีวิตตัวเองพอที่จะลงทุนกับอาหารเสริม ก็น้อยลงไปอีก แล้วอะไรล่ะ? ที่จะทำให้คนที่ทำธุรกิจความงามและอาหารเสริม ประสบความสำเร็จ...สำหรับผมแล้ว คงไม่มีอะไรเกินไปกว่า การตั้งระบบจิต ให้ทำงานสอดคล้องกับระบบของความสำเร็จ เช้าวันนี้ ระหว่างขับรถมาที่ The Master Coach ผมเปิดฟังวิทยุที่สัมภาษณ์ CEO บริษัทขายตรงสัญชาติไทยแห่งหนึ่ง เธอเป็น CEO สุภาพสตรี เป็นคุณหมอ และเป็นคนที่มีวิธีคิดที่สุดยอดคนหนึ่ง (ไม่เช่นนั้น คงไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจหมื่นล้านอย่างแน่นอน) พอได้ฟังวิธีคิดของเธอ ก็รู้ได้ทันทีว่า ระบบจิตทำให้เกิดวิธีคิดที่ฝรั่งเรียกว่า หรือ Blink - ปิ๊งแวบ ทำให้มีไอเดียหรือความคิดที่เหนือชั้นกว่าคนอื่น อยากแรก ตอนนี้เธออายุ 57 ปีแล้ว แต่เธอโปรแกรมจิตตัวเองไว้ที่อายุ 38 ปี ถามว่า..ทำไมไม่โปรแกรมจิตให้อายุน้อยกว่านี้ เอาซัก 18 ปีก็ได้ เธอตอบว่า...ช่วงอายุ 38 ปี เป็นวัยที่มีทั้งความงามทางร่างกาย และความเพียบพร้อมทางสติ ปัญญา ประสบการณ์ชีวิต ฟังแล้วต้องยกนิ้วให้เลยครับ เธอบอกอีกว่า...ถ้าโปรแกรมจิตตัวเองไว้ที่อายุ 18 ปี ก็จะมีปัญหาเรื่องการแต่งตัว เพราะตอนนี้อายุ 57 แล้ว จะให้แต่งตัวเหมือนเด็กสาวอายุ 18 ก็คงไม่งาม ส่วนการแต่งตัวในอายุ 38 ปี ก็ไม่สาวหรือชราจนเกินไป กำลังพอดี อย่างที่สอง วิธีคิดเรื่องการใช้เงิน เธอเล่าว่า...มีนักธุรกิจท่านหนึ่งรายได้หลักหลายแสนต่อเดือน แต่ทุกวันต้องรีบกลับไปถูบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ไม่ค่อยมีเวลาสังสรรค์กับใคร เธอบอกว่า...เขาอาจจะติดค้างความทรงจำในวัยเด็กที่ยากจน พอมีเงินมากแล้วยังติดกับระบบความคิดแบบเดิม อะไรที่ตัดรายจ่ายได้..ทำเองได้ เขาก็เลือกที่จะทำ ความคิดนี้ก็ถูกต้อง..ในเวลาที่ชีวิตยังรายได้น้อยและลำบาก แต่ตอนนี้มีรายได้มากขึ้นแล้ว เธอบอกว่า...คนเราหาเงินได้มากมายแล้ว ต้องรู้จักทำให้ตัวเองสบายขึ้นด้วย อย่างที่สาม เรื่องการปรับตัว...ในธุรกิจขายตรง เธอต้องดูแลคนหลายแสน ต้องให้วิธีคิดทั้งเรื่องการออมเงิน 10% ของรายได้ การบริหารจัดการเงิน รวมถึงการปรับตัวให้เข้ากับกระแสโลกที่เปลี่ยนไป เช่น การใช้สื่อออนไลน์ Social Media ในการทำการตลาดยุคใหม่ เธอเล่าว่า หลายคนอายุมากแล้วมีความลำบากมากเรื่องการปรับตัวกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ต้องทำถ้าต้องการอยู่รอด นับวันการแข่งขันจะยิ่งดุเดือดเลือดพล่าน คนทำธุรกิจจะใช้ชีวิตแบบ Slow Life ไม่ได้อีกแล้ว ถ้าคิดว่าเศรษฐกิจไม่ดีให้หยุดก่อน...นั่นยิ่งทำให้ชีวิตของคุณถอยกรูดไม่เป็นท่า สิ่งที่ต้องทำคือ ทำให้เร็วขึ้น ต้องวิ่ง..อย่าเดิน วิ่งอย่างระมัดระวังด้วย อย่างที่สี่ การดูแลตัวเอง เธอบอกว่า แม้จะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ แต่พอกลับบ้านเธอจะอ่านการ์ตูน เรื่องการดูหนัง...จะไม่ดูหนังเศร้าแบบตอนท้ายพระเอกตาย สุนัขหาย..แบบนี้ไม่ดูเลย ก่อนจะนอนก็จินตนาการเห็นไม้กวาด กวาดทำความสะอาดเรื่องรกใจต่างๆออกไป แล้วบอกตัวเองว่า “นอน นอน นอน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่” ผมขอจบท้ายด้วยเรื่องการดูหนังก็แล้วกัน พอดีวันก่อนดูคลิปของ แจ๊ค หม่า เจ้าของอาลีบาบา ตอนนี้เขาสนใจเข้าไปลงทุนในธุรกิจสร้างภาพยนตร์ เพราะมันไม่เสียค่าขนส่งมาก และที่สำคัญมันสร้างแรงบันดาลใจให้คนหนุ่มสาว แจ๊ค หม่า..บอกว่า เขาไม่ชอบหนังจีนที่ วีรบุรุษ..ตายในตอนจบ ทำให้ระบบจิตของคนรุ่นใหม่..ไม่มีใครอยากเป็นวีรบุรุษ ชีวิตถอยหลังไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าเขาทำหนังออกมา จะให้พระเอกที่อุตส่าห์สู้มาตั้งนาน มีชีวิตที่ประสบความสำเร็จในตอนท้าย อ่านถึงตอนนี้แล้ว จะเห็นว่า..คนที่ประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องของระบบจิตที่เรามองไม่เห็น เป็นนามธรรม สอนกันยากมาก...ทางเดียวที่จะได้ความรู้สึกแบบเดียวกับคนที่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องอยู่ใกล้คนๆนั้น เพราะการอยู่ใกล้คนดี..คนเก่ง นอกจากสิ่งที่เขาบอกและสอนโดยตรงแล้ว พลังสั่นสะเทือนทางความคิดและความรู้สึก จะซึมซับเข้าหาตัวเราได้เองครับ คบบัณฑิต บัณฑิตพา..ไปหาผล |
Archives
October 2018
Authorโค้ชโจ้ ภัคพงศ์ ตาตะนันทน์ ฝึกฝนการโค้ชผ่านระบบ SLP กับอาจารย์สถิตธรรม เพ็ญสุข ทำงานเป็นผู้ช่วยอาจารย์และร่วมก่อตั้งสถาบันโค้ชพลังจิต The Master Coach Academy Categories |